วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สูตรลดน้ำหนัก

   สูตรลดน้ำหนัก



สูตรลดน้ำหนัก 6 สูตร



สูตรที่ 1 ลด 7-8 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์ 



1. มื้อเช้า กินไข่ต้ม 1 ฟอง กินได้ทั้งไข่แดงและไข่ขาว หรือทานโยเกิร์ต 1 ถ้วย แทน

2. มื้อกลางวัน กินสลัดผัก 1 จาน ถ้าไม่ชอบสลัดให้ทานส้มตำ 1 จาน (ไม่หวาน) แทน
3. มื้อเย็น กินแอปเปิ้ล 1 ผล หรือแฮมนึ่ง 1-2 แผ่น แทนได้
4. งดอาหารหลัง 6 โมงเย็น ถ้าหิวให้ดื่มน้ำมากๆ แทน 
5. เต้นแอโรบิก 60 นาที อย่างน้อย 4 ครั้งต่อสัปดาห์ 



สูตรที่ 2 ลด 3-5 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์ 



1. กินอาหารวันละ 700-800 แคลอรี่

2. กินสลัดผัก หรือผลไม้ 2 ผลหรือกินไข่ต้ม 1 ฟองเป็นมื้อเย็น 
3. งดอาหารหลัง1 ทุ่ม ถ้าหิว ให้กินผลไม้ 1 ผลหรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย 
4. ว่ายน้ำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ 
5. เต้นแอโรบิก 40-60 นาทีทุกวัน 



สูตรที่ 3 ลดน้ำหนัก 5-7 กิโลกรัม ได้ผลใน 3 สัปดาห์ 



1. มื้อเช้ากินโยเกิร์ต 1 ถ้วย (โยเกิร์ตจะช่วยเรื่องการขับถ่าย ให้พลังงานน้อย และดีต่อสุขภาพ)

2. มื้อกลางวันกินก๋วยเตี๋ยวน้ำ 1 ชามเท่านั้น 
3. มื้อเย็นกินผักจิ้มน้ำพริก ทานข้าวนิดหน่อย งดข้าวได้ยิ่งดี ถ้าหิวหลังจาก 1 ทุ่มให้กินผลไม้ได้ 1 ผล (แต่ไม่ใช่กินทุเรียน มะม่วง หรือผลไม้ที่หวานมาก) ควรเป็นแอบเปิ้ลหรือส้ม
4. เปิดเพลง เต้นรำในจังหวะเร็วๆ 60 นาที วันเว้นวัน หรือวิ่งจ็อกกิ้ง 45 นาทีแทน
5. ว่ายน้ำ 60 นาที 2 ครั้งต่อสัปดาห์ 



สูตรที่ 4 ลด 3-5 กิโลกรัมใน 4 สัปดาห์ 



1. กินอาหารไม่เกินวันละ 1000 แคลอรี่ ตัวอย่างปริมาณแคลอรี่ในอาหารเช่น

  • นมไขมันต่ำ 1 ถ้วย ให้พลังงาน 240-250 แคลอรี 
  • โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย ให้พลังงาน 125 แคลอรี 
  • โยเกิร์ต 1 ถ้วย ให้พลังงาน 140-150 แคลอรี 
  • เนย 50 กรัม ให้พลังงาน 300 แคลอรี 
  • ไข่ต้ม 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 แคลอรี 

http://xn--22c1bm1byar9c5k.blogspot.com/2012/07/6.html

วิธีเล่นกีตาร์สำหรับมือใหม่


การเล่นกีตาร์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนเลย จะต้องทำใจอย่างนึงครับ คือ ระหว่างที่ฝึกใหม่ ๆ ปลายนิ้วมือเราจะเจ็บมาก ถึงขั้นหนังลอกออกเห็นเนื้อแดง ๆ เลยล่ะครับ ผมก็มีวิธีที่ลดความเจ็บปวดให้น้อยลงคือ พอนิ้วเริ่มเจ็บจนจะทนไม่ได้แล้ว ก็หยุดเล่นหยุดฝึกไปก่อน จนกว่านิ้วจะหาย ถ้าขืนยังฝืนเล่นต่อไป มีหวังหนังปลายนิ้วลอกออก จนเห็นเนื้อแดง ๆ เนี่ย จะไม่ได้เล่นอีกหลายวันเลยนะครับอีกอย่างที่สำคัญก็คือ การวางกีตาร์ การวางนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก ตรงนี้ก็สำคัญครับ จับกีตาร์ใหม่ ๆ เอ๊ะ ทำไมเสียงมันบอด นั่นก็เพราะว่า เรายังไม่คุ้นเคย กับกีตาร์ ยังไม่คุ้นเคยกับการวางนิ้ว กางข้อศอก บิดข้อมือ นั่นเองครับ  วิธีง่าย ๆ ก็คือ ขยับทั้ง จุดนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะเจอจุดที่เราถนัด ซึ่งทุก ๆ คน จะมีจุดที่ถนัดแตกต่างกันไปครับ  หากเราทำสำเร็จ ผลที่ตามมาก็คือ เสียงคอร์ดกีตาร์ที่เราดีดนั้น จะไม่บอดครับ แต่แรก ๆ อาจจะยังบอดอยู่บ้างบางเสียง ก็ไม่เป็นไร ฝึกจนกว่าจะไม่บอดเลย จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมพบว่า ทุก ๆ จุดของการฝึกดนตรี มีปัญหาทั้งนั้น ถ้าเสียงไม่บอด ก็เมื่อยมือ ถ้าไม่เมื่อยมือ ก็เจ็บนิ้ว เป็นต้น  ผมจึงอยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่า อดทนนะครับ แรก ๆ มันโคตรอึดอัด อยากจะเลิกฝึกเลยล่ะครับ แต่ถ้าเราอดทนผ่านช่วงวิกฤติ ช่วงนี้ไปได้ (หมายถึงช่วงเจ็บนิ้ว ช่วงเสียงบอด) เราจะสนุกกับมันจนไม่อยากวางเลยล่ะครับ...สิ่งที่เราต้องรู้อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ต้องรู้จักกับสายกีตาร์ก่อนว่า มีกี่สาย ตั้งเสียงอย่างไรให้เป็นมาตรฐาน ไม่งั้น ก็จะเล่นไม่ได้อ่ะครับ วิธีจำง่าย ๆ ก็คือ ให้เอากีตาร์มาวางบนตัก เหมือนกับเรากำลังจะเล่นกีตาร์ แล้วมองไปที่ สายกีตาร์ จะเห็นว่ามี สาย มีทั้ง สายเล็ก ๆ และสายใหญ่ ๆ ส่วนมากเขาจะเรียงสายดังนี้ครับ สายเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านล่างสุด เสียงแหลม ๆ เขาจะเรียกเป็นสาย 1  ส่วนสายบนสุด ใหญ่ ๆ หนา ๆ เสียงทุ้ม ๆ เขาจะเรียกเป็นสาย ครับ ซึ่งแต่ละสาย จะต้องมีเสียงประจำตัวของมันนะครับเพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่า โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด มาแล้ว  ในการฝึกเครื่องดนตรี เรามักนิยมฝึกตามตัวอักษรภาษาอังกฤษครับ ซึ่งโน๊ตตัวโด ก็จะแทนด้วยอักษร ครับ ผมจะไล่ตัวอักษรดังนี้ครับ  C D E F G A B C C = โด                D = เร                E = มี                F = ฟา                G = ซอล             A = ลา                   ฺิB = ที                C = โดจะเห็นว่า มี ถึง ตัวเลย จริง ๆ แล้ว มันมีหลายตัวเลยล่ะครับ ลองนึกถึงลิ่มเปียโน ตรงที่เวลาเขาเล่น เขาต้องกด ๆ มันเพื่อให้มีเสียงออกมาครับ  ลิ่มเปียโนเหล่านี้ มีมากมายเหลือเกิน ใหม่ ๆ เราจะไม่รู้เลยว่า ตัวไหน โน๊ตอะไรกันแน่  ให้เพื่อน ๆ ลองไปสังเกตดูนะครับ มันจะมีลิ่มสีดำ อยู่ด้านบน ลิ่มสีขาว อยู่ด้านล่าง ลิ่มสีดำ จะมีที่ติดกัน ลิ่ม กับ ลิ่ม  การดูว่า ลิ่มไหนโน๊ตตัว ให้ดู ลิ่มดำที่ติดกัน ลิ่มครับ ลิ่มขาว ๆ ก่อนลิ่มดำ ลิ่ม นั่นคือ โน๊ตตัว นั่นเอง ครับ  แล้วมันก็จะมีลิ่ม แบบนี้ หลายจุดเลยทีเดียว ก็เท่ากับว่า มีโน๊ตตัว หลายตัว  ถ้าเพื่อน ๆ ลองกดฟังเสียงดู ก็จะพบว่า มีทั้ง เสียงต่ำ ๆ ทุ้ม ๆ ไปจนถึง เสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า ต่ำ  C สูง ครับ  ในหลักการของดนตรี จำเป็นต้องมีทั้งเสียงต่ำ และเสียงสูง เพราะว่า มันจะทำให้เกิดมิติ ของเสียงนั่นเองครับ (เริ่มงง) เอาเป็นว่า กลับมาที่กีตาร์กันต่อดีกว่า  เรื่องของสายกีตาร์ยังไม่หมดเท่านี้  ยังมีต่ออีกนิดหน่อยครับ นั่นคือ เราจะตั้งสาย ยังไงอ่ะ  ให้ตั้งตามโน๊ต ดังนี้ครับสาย 1 = E                สาย 2 = B                สาย 3 = G                สาย 4 = D                สาย 5 = A                สาย 6 = Eเพื่อน ๆ อาจมีคำถามว่า แล้วจะตั้งสายกับอะไรล่ะ คำตอบก็คือ ตั้งกับลิ่มเปียโนครับ หรือตั้งกับเครื่องตั้งสาย หรือตั้งกับโปรแกรมตั้งสายใน คอมพิวเตอร์  แต่ถ้าเราไม่มี อย่างนี้เลยล่ะ ก็ตั้งไม่ได้เหรอ  คำตอบคือ ตั้งได้ครับ แต่จะไม่ตรงกับระดับเสียงของโน๊ตที่แท้จริง (เมื่อก่อน ผมก็ตั้งสายเอง โดยไม่ได้อาศัยเครื่องมืออะไรเลย แต่ถ้าจะต้องเล่นดนตรีเป็นวงแล้วล่ะก้อ ต้องตั้งเสียงให้ตรงกันทั้งวงครับ ไม่อย่างนั้น ไม่เป็นเพลงครับ)   การตั้งสายเองโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือใด ๆ มีวิธีดังนี้ครับ (วิธี ที่ผมใช้ประจำ)1.  ตั้งสาย ก่อน ให้พอตึง ๆ อย่าตึงมากนะครับ เดี๋ยวสายขาด2.  เอานิ้ว กดไปที่ช่องที่ ของสาย แล้วดีด ฟังเสียงเทียบกับสาย ครับ ให้เราหมุนสาย จนกว่า เสียงที่เรากดในช่องที่ 5 จะเท่ากับสาย 13.  เอานิ้ว กดไปที่ช่องที่ 4  สาย เน้นนะครับ ช่องที่ 4  สาย แล้วดีด ฟังเสียงเทียบกับสาย แล้วก็หมุนสาย จนกว่าเสียงจะเท่ากับสาย 24.  เอานิ้ว กดไปที่ช่องที่ สาย 4  ดีด ฟังเสียงเทียบกับสาย แล้วตั้งสายเหมือน ข้อ 2. และ 3.5.  สาย และ สาย ทำวิธีเดียวกันกับ ข้อ ครับสรุปก็คือ มีเฉพาะสาย เท่านั้น ที่ต้องกด ที่ช่อง เพื่อเทียบเสียง นอกนั้น กด ช่อง หมดเลยครับ


ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=74662

'พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖)






พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖)
 
องค์พระธีรราชเจ้า
ธ คือปราชญ์ผู้ลือนาม
ทรงก่อตั้งกิจลูกเสือ
การปกครองก็การุณย์
คือ “ดุสิตธานี”
สร้างฐานอันรุ่งเรือง
อุปถัมถ์เนติบัณฑิต
ยกระดับกฎหมายไทย
เป็นศูนย์รวมวิชาชีพ
โปรดเกล้าฯ ตั้ง “ตั้งสภา
วางระเบียบโรงเรียนกฎหมาย
นักกฎหมายจึงจดจำ
ยี่สิบห้าพฤศจิกา
เนติบัณฑิตรวมดวงใจ
ผู้ผ่านเผ้าไผทสยาม
ทั่วเขตคามรำลึกคุณ
ด้วยโอบเอื้อเหล่าดรุณ 
ธ หนุนสร้างแบบอย่างเมือง
เป็นที่สอนซึ่งปราดเปรื่อง
จำลองเรื่องประชาธิปไตย
ทรงค้นคิดแนวทางใหม่
ให้กำเนิด “เนติบัณฑิตยสภา”
ทรงเร่งรีบเรื่องศึกษา
นิติศึกษา” เป็นหลักนำ
ให้แพร่หลายและเลิศล้ำ
ที่ ธ ทำเพื่อผองไทย
จารึกคุณยิ่งใหญ่
เทิด ธ ไว้ไม่ลืมเลือนฯ
 
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า เนติบัณฑิตยสภาในพระบรมราชูปถัมภ์
(ศาสตราจารย์ วิชา มหาคุณ ประพันธ์)

พระราชประวัติ
 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๖ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น ๒ ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๔๒ เวลา ๘ นาฬิกา ๕๕ นาที ตรงกับวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๒๔ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระองค์ที่ ๒ ในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงได้รับพระราชทานพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราวุธ” สมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนีตรัสเรียกว่า “ลูกโต” เมื่อพระชนมายุได้ ๘ พรรษา ในปี ๒๔๓๑ ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี ปรากฏพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เอกอัครมหาบุรุษบรมนราธิราช จุฬาลงกรณ์นาถราชวโรรส มหาสมมตขัตติยพิสุทธิ์ บรมมกุฎสุริยสันตติวงศ์ อดิสัยพงศ์วโรภโตสุชาติ คุณสังกาศวิมลรัตน์ ทฤฆชนมสวัสดิขัตติยราชกุมาร มุสิกนาม ทรงศักดินา ๕๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าต่างกรม ให้ทรงดำรงพระเกียรติยศเป็นชั้นที่ ๒ รองจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร และได้มีพระราชพิธีโสกันต์ในเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๔๓๕
ใน พ.ศ. ๒๔๔๗ ได้ผนวชตามโบราณราชประเพณี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประทับจำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ พรรษา ทรงได้รับสมณฉายาจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระราชอุปัธยาจารย์ว่า “วชิราวุโธ” 
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตในวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมารได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบแทนเมื่อเวลา ๐.๔๕ นาฬิกา ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจัดเป็น ๒ งาน คือ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมนเทียรเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๓ และงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๔
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรด้วยโรคทางเดินอาหารขัดข้อง ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่าทรงพระประชวรด้วยโรคพระโลหิตเป็นพิษในพระอุทรมาตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ และสวรรคต ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ เวลา ๑ นาฬิกา ๔๕ นาที พระชนมพรรษาเป็นปีที่ ๔๖ เสด็จดำรงสิริราชสมบัติได้ ๑๕ พรรษา
เนื่องจากเสด็จสวรรคตเวลา ๑ นาฬิกา ๔๕ นาที ล่วงมาในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ เพียงไม่กี่นาที พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชประสงค์ให้ใช้วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน เป็นวันสวรรคต และวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนเป็นวันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทางราชการได้กำหนดให้วันที่ ๒๕ พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันที่ระลึกวันมหาธีรราชเจ้า และวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนเป็นวันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ

แหล่งที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/

ข้อเสีย iphone 5


[27-พฤศจิกายน-2555] ใกล้จะเปิดจำหน่ายในไทย ครบ 1 เดือนเต็มทีแล้ว สำหรับ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ที่เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงแรกของการรับเครื่อง iphone 5 (ไอโฟน 5) จากทั้ง 3 เครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น AIS, Dtac และ Truemove H ในส่วนของการพรีออเดอร์ ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ท่านที่ติดตามข่าว iPhone 5 (ไอโฟน 5) มาโดยตลอด จะพบว่า ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ เนื่องจากผู้ที่จองเครื่องก่อนเป็นลำดับแรกๆ กลับได้เครื่องช้ากว่า ผู้ที่เดินเข้าไปซื้อที่หน้าร้านโดยตรง อีกทั้ง ยังเกิดความคลาดเคลื่อนของวันที่รับสินค้า ไม่ตรงตามกำหนด เนื่องจากได้รับแจ้งว่า มีสินค้าไม่เพียงพอบ้าง มีคิวเยอะบ้าง และอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะที่ ผู้ที่เดินไปซื้อจากหน้าร้านโดยตรง สามารถได้รับสินค้าเลยทันที โดยไม่ต้องรอคิว
แน่นอนครับ ปัญหาการรับเครื่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5) ที่ยืดเยื้อไปกว่า 2-3 สัปดาห์ รวมไปถึงการสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จากผู้ให้บริการต่างๆ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ถ้าหาก walk iin เดินไปซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ในตอนนี้ จะมีเครื่องที่ศูนย์เลยหรือไม่ หรือจะต้องสั่งจองผ่านเว็บไซต์อย่างเดียว จะต้องเสียเงินมัดจำเท่าไหร่ และใช้เวลานานกี่วัน ในวันนี้ เว็บไซต์ techmoblog ได้รวบรวม สถานการณ์การสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จากทั้ง AIS, Dtac, Truemove H และ Apple Store เพื่อเป็นข้อมูล สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจที่จะซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ในช่วงนี้ครับ
iPhone 5 : AIS

สำหรับทาง AIS นั้น จากการสอบถามล่าสุด พบว่า ที่ AIS Shop ไม่มีสินค้าจำหน่ายที่หน้าร้านครับ เนื่องจากมีปริมาณการจองเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งทาง call center ของ AIS ได้แนะนำให้จองผ่าน AIS Online shopping ครับ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ที่จะไม่ต้องเดินทางไปที่ AIS Shop หลายๆ ครั้ง ซึ่งท่านที่จองผ่าน AIS Online shopping เมื่อได้รับ SMS แจ้งถึงคิว ก็สามารถเดินทางไปรับเครื่องได้เลยทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน จึงจะได้รับเครื่องหลังจากสั่งจอง โดยการจองผ่าน AIS Online shopping นั้น มีค่ามัดจำเป็นจำนวน 1,000 บาทครับ
อย่างไรก็ดี ตัวแทนจำหน่ายของ AIS อย่าง Telewiz นั้น สามารถ walk in เดินเข้าไปซื้อ iphone 5 ได้เลยทันที แต่เพื่อความแน่นอน ควรจะโทรตรวจสอบจำนวนสินค้าของสาขาที่จะไปเสียก่อน เพื่อที่จะไม่เดินทางไปแบบเสียเที่ยวครับ
iPhone 5 : Dtac
สำหรับ Dtac นั้น ที่ Dtac shop บางสาขา สามารถเดิน walk in เข้าไปซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ได้เลยครับ แต่จำเป็นต้องโทรสอบถามจำนวนเครื่องของสาขานั้นก่อนเดินทางไปซื้อเหมือนเช่นเคย นอกจากนี้ ทาง Dtac ยังเปิดให้ซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ผ่านทาง Dtac Online Store ด้วยเช่นกันครับ
จากการตรวจสอบ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Dtac Online Store ล่าสุด (27 พ.ย.) พบว่า iPhone 5 (ไอโฟน 5) สินค้าหมดครับ ฉะนั้น ช่วงนี้ เดินทาง walk in น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Dtac ครับ
iPhone 5 : Truemove H
ส่วน iPhone 5 จาก Truemove H ก็สามารถเดิน walk in เข้าไปซื้อได้ทันทีเช่นกัน ซึ่งจำนวนเครื่องจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสาขานั้นๆ ด้วยครับ แต่จากการสำรวจพบว่า มีหลายสาขาที่มีสินค้าเริ่มทยอยเข้ามาบ้างแล้ว และมีผู้ที่สามารถ walk in เข้าไปซื้อได้เลยทันทีเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องจอง และไม่ต้องรอคิวครับ
iPhone 5 : Apple Store
ปิดท้ายด้วย สถานการณ์ การสั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Store กันบ้างครับ โดยผู้ที่สั่งซื้อจาก Apple Store นั้น มั่นใจได้เลยว่า ได้สินค้าอย่างแน่นอน แต่จะต้อง "รอ" สินค้า ไประยะหนึ่งครับ ซึ่งผู้สั่งซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Store ในตอนนี้ จะต้องรอสินค้าประมาณ 2 สัปดาห์ และไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรับเอง เนื่องจากมี DHL มาส่งให้ถึงที่เลยนั่นเองครับ
อย่างไรก็ดี อยากจะขอย้ำอีกซักนิดครับว่า แม้จะมีข้อมูลว่า iPhone 5 สามารถเดิน walk in เข้าไปซื้อได้เลยที่ศูนย์ แต่เพื่อความมั่นใจ ควรจะโทรสอบถามจากสาขานั้นๆ ก่อนครับว่า มีจำนวนเครื่องเพียงพอหรือไม่ จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทาง นั่นเองครับ
เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น จะขอสรุปเป็นตาราง ดังนี้ครับ
ค่าย / เครือข่าย
มีสินค้า / ไม่มีสินค้า
Walk in ได้
สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์
เงินมัดจำ
มี
1,000 บาท
มี
-
มี
-
มี
-
** การสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ จาก Dtac ขณะนี้ (27 พ.ย.) ไม่มีสินค้าจำหน่าย
** การสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ จาก Truemove H มีเฉพาะ iPhone ความจุ 16GB สีดำ และ ความจุ 32GB สีขาว และสีดำ
ส่วน ราคา iPhone 5 (ไอโฟน 5) พร้อมแพ็กเกจ เครื่องศูนย์ เครื่องหิ้ว มาบุญครอง อัพเดททุกสัปดาห์ สามารถติดตามได้ ที่นี่ ครับ
อัพเดทคลิปวิดีโอโปรโมท iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Subtitle ภาษาไทย thai โดยทีมงาน techmoblog ครับ เราเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาใส่ sub ภาษาไทยให้ทุกท่านได้ชมกันครับ ซึ่งภายในคลิปจะกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ iPhone 5 และการปรับเปลี่ยนที่สำคัญต่างๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบและชิ้นส่วนภายใน นอกจากนั้น ยังสรุปถึงการใช้งาน Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจรวมถึงการถ่ายภาพ Panorama ด้วยครับ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากคลิปวีดีโอนะครับ

หลังจากที่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ใน 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ในตอนนี้ iphone 5 (ไอโฟน5) เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ ได้ทยอยนำมาขายในไทยกันอย่างมากมาย และราคา iPhone 5 (ราคา ไอโฟน 5) เครื่องหิ้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 1,000 - 2,000 บาท ตามความต้องการซื้อ iphone5 (ไอโฟน5) ที่มีอย่างมากมายนั่นเอง โดยในวันที่ 28 กันยายนนี้ iphone 5 (ไอโฟน 5) จะเปิดจำหน่ายในรอบที่ 2 อีก 22 ประเทศด้วย ซึ่งแน่นอนครับว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย
และตามคำสัญญาครับ เมื่อเว็บไซต์ techmoblog ได้มีโอกาส สัมผัส iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) มาให้ได้อ่านกัน โดยจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ iphone5 (ไอโฟน 5) ว่า ดีขึ้นกว่า iPhone 4S จริงหรือไม่ บอดี้แบบใหม่บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น สวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone5 (ไอโฟน 5) เสียที ข้อดีข้อเสีย ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มีอะไรบ้างบทความนี้ จะเป็นบทความที่ช่วยให้ท่าน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะซื้อ iPhone5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่ ไปชมพร้อมๆ กันครับ
สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)
- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver
แกะกล่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับ กล่องของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือ กล่องของ iphone 5 (ไอโฟน5) จะมีการแยกสี โดยสำหรับรุ่นสีดำ ตัวกล่องจะเป็นสีดำ และรุ่นสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาวนั่นเองครับ โดยขนาดกล่องนั้นถือว่าใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เพื่อรองรับหน้าจอที่มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม และตัวกล่องยังคงใช้วัสดุเดียวกันกับกล่องของ iPhone รุ่นก่อนหน้าครับ

ภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ที่ชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย USB แบบใหม่ Lightning connector ขนาด 8-pin, อุปกรณ์สำหรับถอดถาดซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card รวมไปถึง Apple EarPods และ คู่มือการใช้งาน

สำหรับ iPhone 4S นั้น ชุดหูฟังจะไม่ได้อยู่ในแพคเกจที่เรียบร้อยแบบนี้นะครับ แต่ใน iphone5 (ไอโฟน5) นั้น Apple EarPods จะถูกบรรจุอยู่ในแพคเกจที่สวยงาม ภายในกล่องของ iPhone 5 อีกที ซึ่งสามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งานได้ง่าย และเป็นระเบียบอีกด้วย

และนี่คือ Dock Connector แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Lightning connector บรรจุอยู่ภายในกล่องเช่นเดียวกัน

เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้นำมาทดสอบในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จึงทำให้ Adapter เป็นไปตามประเทศนั้นๆ แต่สำหรับรุ่นที่วางขายในไทย ก็จะเป็น Adapter ที่ใช้งานในประเทศไทย ได้ตามปกติ
รูปลักษณ์ และการออกแบบ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
iphone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้นำมาทำการทดสอบ ในวันนี้คือรุ่น iPhone 5 (ไอโฟน 5) สีดำ Black & Slate ความจุ 16 GB โดยตัวเครื่องที่อยู่ภายในกล่อง จะมีพลาสติกใส ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

ด้านหลังของตัวเครื่อง จะเป็นแบบ ทูโทน (Two-tone) โดยสีดำ ในส่วนขอบบนล่าง จะเป็นกระจก
ส่วนตรงกลางตัวเครื่องจะเป็น Anodized Aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้บน MacBook นั่นเอง

สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแค่เพียงปุ่ม เปิดปิด เครื่อง เท่านั้น
โดยพอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างแทน

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็น พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Build-in Microphone และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จไฟ แบบใหม่ (Lightning connector) และสุดท้ายคือ Build-in Speaker ครับ

สำหรับด้านข้างฝั่งซ้าย ปุ่มที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเรียวๆ อยู่นั้น สามารถทำงานได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยสามารถเป็นได้ทั้ง ปุ่มเปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ (rotate) ส่วน 2 ปุ่มกลมๆ นั้น เป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มลดเสียง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า

ส่วนฝั่งขวานั้นจะมีเพียงช่องสำหรับ ใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะเป็นแบบ Nano-Sim นั่นเองครับ


สำหรับกล้องด้านหน้านั้น ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน FaceTime ความละเอียดที่ 720p มีเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน FaceTime บนเครือข่าย 3G และ 4G ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ส่วนของลำโพงสำหรับสนทนา ยังเป็นระบบแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้สามารถได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดเจนครับ

ในส่วนนี้ก็จะเป็น กล้องดิจิตอล iSight ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ตัวเลนส์ และไฟแฟลชครับ นอกจากนี้ iphone5 (ไอโฟน 5) ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p ครับ
EarPods ชุดหูฟังใหม่ล่าสุดจาก Apple
สำหรับชุดหูฟังจาก Apple นั้นถือว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควร ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนครับว่า ในรุ่นใหม่นี้ ทาง Apple ได้มีการออกแบบ ชุดหูฟังใหม่ทั้งหมด โดยมีการทดสอบ จากรูปแบบใบหู ของผู้ใช้ กว่า 124 แบบ จากผู้ใช้งานกว่า 1,000 คน เพื่อให้ได้รูปทรงที่สามารถเข้ากันได้กับ ผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง

แจ็ค สำหรับเชื่อมต่อกับ พอร์ตหูฟัง ก็เป็นขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า

ขนาดของ รีโมท มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ จากภาพ ด้านล่างจะเป็นของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) และด้านบน เป็น ชุดหูฟังรุ่นเก่า

ด้านหลังของรีโมท จะเห็นได้ว่าไม่มีช่องที่ถูกเจาะไว้เป็น ไมโครโฟน แบบในรุ่นเก่า โดยในรุ่นใหม่นี้ จะเรียบไปเลยครับ โดยจะมีการสกรีนลายเป็นรูปไมโครโฟนเอาไว้
สำหรับจุดเด่นในเรื่องของเสียง ในการปรับปรุงครั้งนี้ ทาง Apple ได้มีการเน้นให้ได้เสียงที่มีความใส และ มีน้ำหนักของ เสียงเบส มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายๆ ท่านที่เคยใช้ หูฟังจาก Apple อาจจะรู้สึกว่า เสียงเบสนั้นยังน้อยไป และออกไปทางเสียงแหลมซะมากกว่า ซึ่งแน่นอนครับว่า แต่ละคนนั้น มีรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกัน หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบเสียงเบสมากนัก แต่บางท่านก็อาจจะชอบ ซึ่งตรงนี้ ทีมงานก็คงไม่สามารถฟันธงได้นะครับว่า จะถูกใจใครหลายคนหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เสียง นั่นก็คือ ความรู้สึก สบายหลังจากที่ใส่ ที่ทางแอปเปิ้ลได้พยายามออกแบบให้เราได้รู้สึกไม่อึดอัดเวลาใส่นั่นเองครับ
การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
ชิปประมวลผล Apple A6
สำหรับบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถือเป็นครั้งแรก ที่ทาง Apple ได้มีการลงมือ ปรับแต่ง หน่วยประมวลผลด้วยตัวเอง และการที่ทางแอปเปิ้ลลงมือทำเองนั้นจะช่วยให้ ความเข้ากันได้ ระหว่าง หน่วยประมวลผล และความสามารถของตัวเครื่อง รวมไปถึงความเข้ากันได้ระหว่าง หน่วยประมวลผล และ ระบบปฏิบัติการ นั้นดียิ่งขึ้น และถึงแม้ว่า หน่วยประมวลผลของ iphone5 (ไอโฟน5) จะเป็นแบบ Dual-Core processor ความเร็ว 1GHz แต่กลับสามารถทำความเร็วได้มากกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า
หน้าจอแบบ Retina display ขนาด 4 นิ้ว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม Apple จึงเลือกที่จะขยายหน้าจอให้ยาวขึ้น แทนที่จะทำให้ใหญ่ขึ้นเหมือนรุ่นอื่นๆ ในตลาด แต่คำตอบของทีมดีไซน์ของ Apple ก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะยังคงสามารถใช้งาน iPhone ด้วยมือเดียวได้อยู่นั่นเอง ซึ่ง Apple ได้ให้เหตุผลว่า นิ้วโป้งของเรานั้นสามารถเคลื่อนที่ได้บนความยาวที่สูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าได้ แต่หากหน้าจอมีความกว้างขึ้น อาจจะทำให้เราใช้งานด้วยมือเดียวได้ยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนที่ของนิ้วโป้งไปทางด้านกว้าง จะทำได้ลำบากขึ้นนั่นเอง
iPhone 5 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE


http://www.techmoblog.com/iphone-5/

งานดอกไม้งาม

การได้ดื่มด่ำและดอมดมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ สำหรับการเติมความสดชื่นให้กับหัวใจ ซึ่งต้นฤดูหนาวแบบนี้ ดอกไม้เมืองหนาวมักออกดอกผลิบาน พร้อมกับแข่งกันอวดโฉมความงามให้เราได้ชื่นชม ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวจึงรวบรวมเอาสถานที่จัดงาน "เทศกาลดอกไม้บาน" จากทั่วประเทศไทยมาบอกกันค่ะ โดยเริ่มกันที่...

งานสวนทิวลิปนนท์

 งานสวนทิวลิปนนท์

          จังหวัดนนทบุรี ขอเชิญท่องเที่ยว "งานสวนทิวลิปนนท์" ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ณ สวนทิวลิปนนท์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยเนรมิตเนเธอร์แลนด์เมืองไทยด้วยสีสันตระการตาของดอกทิวลิปนนท์ หลากสายพันธุ์ ที่จะเบ่งบานต้อนรับลมหนาวเมืองไทยกว่าหนึ่งแสนดอก อาทิ World’s Favorite ดอกทิวลิปสีแดงสลับปลายกลีบสีเหลืองสด, Orange Queen ดอกทิวลิปสีส้มสดใส, Golden Apeldoorn ดอกทิวลิปสีเหลืองอร่ามตา พร้อมชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 2991-5 และ สวนทิวลิปนนท์ โทรศัพท์ 0 2962 0747 หรือเว็บไซต์ www.tulips2u.com

งานธันวาพฤกษชาติ ครั้งที่ 10

 งานธันวาพฤกษชาติ ครั้งที่ 10

          ขอเชิญชมการจัดแสดงและการประกวดกล้วยไม้ บอนไซ ไม้ดอก ไม้ประดับ การจัดสวนเลียนแบบธรรมชาติ การออกร้านจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ สวนสามพราน จังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0 3475 2847-8

เทศกาลไม้ดอกเมืองหนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

 เทศกาลไม้ดอกเมืองหนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

          ชวนชมดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ดอกแกลดิโอลัส ซึ่งเป็นดอกคำมั่นสัญญาแห่งรัก, ดอกกล้วยไม้, ดอกผีเสื้อ พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาทิ พันธุ์ไม้นานาชนิด ๆ ไปเพาะปลูกที่บ้าน ระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0 3553 5789, 0 3553 6189, 0 3553 6030 หรือเว็บไซต์

แหล่งที่มา : www.suphan.net




ประวัติ วัดพระสิงห์ วรวิหาร


พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๑๘๘๘ ขั้นแรกให้สร้างเจดีย์สูง ๒๓ วา เพื่อบรรจุพระอัฐิ ของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีกสองปีจึงสร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฎิสงฆ์เรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลี" ต่อมาบริเวณหน้าวัดมีตลาดเกิดขึ้นชาวบ้านเรียกว่า "ตลาดลีเชียง" แล้วเรียกวัดว่า "วัดลีเชียง" และ "วัดลีเชียงพระ" ระหว่างปี พ.ศ. ๑๙๓๑ - ๑๙๕๔ สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเช ียงราย เมื่อขบวนช้างอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาถึงหน้าวัดลีเชียงก็ไม่ยอ มเดินทางต่อ
พระเจ้าแสนเมืองมาจึงให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน ณ วัดลีเชียง ประชาชนทางเหนือนิยมเรียก"พระพุทธสิหิงค์" สั้นๆ ว่า "พระสิงห์" จึงเรียกชื่อวัดตามพระพุทธรูปว่า "วัดพระสิงห์"
            เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๓๕๔ พระเจ้ากาวิละได้ โปรดฯ ให้สร้างอุโบสถ และหอไตรขึ้น โดยมีลักษณะเป็นอาคารทรงล้านนาขนาดใหญ่ ตรงกลางอาคารมีกู่ซึ่งแต่เดิมคงเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานพระประธ าน
ตำนานพระสิงห์(พระพุทธสิหิงค์)
  • พระมหาเถรโพธิรังสีชาวหิริภุญไชย รจนาภาษาบาลีไว้ว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. ๗๐๐ พระเจ้าสีหฬะแห่งลังกาทวีป ได้โปรดให้หล่อพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่งเรียกว่า "พระพุทธสิหิงค์" แต่ในชินกาลมาลีปกรณ์เรียกว่า"สีหฬะปฏิมา" ตามนามกษัตริย์ผู้สร้าง
  • พ.ศ. ๑๘๓๙ - กษัตริย์เมืองนครศรีธรรมราช ได้แต่งทูตไปขอคัมภีร์พระไตรปิฎกจากลังกา และได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์อีกองค์หนึ่ง(ศิลปะลังกา)กลับมาด้วย ภายหลังมาประดิษฐานอยู่ที่กรุงสุโขทัย เมื่อพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) ตีกรุงสุโขทัยได้ หลายสิบปีต่อมาพญาไสลือไทยได้อัญเชิญมาไว้ที่เมืองพิษณุโลก เมื่อพญาไสลือไทยสิ้นพระชนม์ จึงอัญเชิญมาที่กรุงศรีอยุธยา
  • พ.ศ. ๑๙๒๗ - พระญาณดิศ เชื้อวงศ์พระร่วงได้กราบทูลพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาขออัญเชิญมาไว้ที่เมืองกำแพงเพชร
  • พ.ศ. ๑๙๓๔ - เจ้ามหาพรหม พระปิตุลาของเจ้าแสนเมืองมาได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเชียงราย ด้วยเหตุนี้จึงปรากฏ วัดที่ประดิษฐานพระพุทธสิงหิงค์อีกแห่งหนึ่ง ที่เมืองเชียงรายมีชื่อว่า วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย และโปรดให้หล่อพระพุทธสิหิงค์จำลองขึ้น เมื่อเจ้ามหาพรหมถึงแก่พิราลัยแล้ว พระพุทธสิหิงค์จึงได้มาประดิษฐาน ณ วัดลีเชียงพระ ในนครเชียงใหม่ เช่นเดิม
  • พ.ศ. ๒๐๘๔ - พระไชยเชษฐากษัตริย์ล้านช้างเชื้อสายล้านนา ทรงนำพระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปจากเชียงใหม่หลายองค์ไปไว้ที่ล้านช้าง(หลวงพระบาง) เมื่อทางเชียงใหม่ทวงถามจึงทรงคืนพระพุทธสิหิงค์มาเพียงองค์เดียว
  • พ.ศ. ๒๒๐๕ - สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงยกทัพมารบเชียงใหม่ และทรงอัญเชิญลงไปไว้ที่อยุธยาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้อยู่นานถึง ๑๐๕ ปี
  • พ.ศ. ๒๓๑๐ - กรุงศรีอยุธยาแตก ทัพทหารเชียงใหม่ที่มาในกองทัพพม่าอัญเชิญกลับนครเชียงใหม่ทางเรือ และประดิษฐานอยู่ที่วัดพระสิงห์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  รวมแล้วประดิษฐานอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นระยะเวลา ๒๘   ปี
  • พ.ศ.๒๓๓๘   ประดิษฐานที่กรุงเทพฯ  จนถึง
  • ปัจจุบัน (พระประธาน)
http://www.chiangmai.go.th/cmweb/temple/prasingha/w.html

เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก


Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
Click here to see a large version
รูปภาพ เกาะ โบรา โบร่า ทะเลที่สวยที่สุดในโลก
เกาะ "โบรา โบร่า" เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะตาฮิติเป็นทะเลที่สวยที่สุดในโลก เป็นหมู่เกาะในเขตแปซิฟิก ขึ้นชื่อทางด้านทรัพยากรทางทะเลที่เอื่อเฟื้อให้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ด้าน การท่องเที่ยวตลอดมาจนได้ชื่อว่า "ราชินีแห่งหมู่เกาะทะเลใต้" 
ที่มา: www.atcloud.com